หนึ่งในจุดสำคัญของการแข่งขันชิงชัยฟุตบอลทั่วทั้งโลกเป็นสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่า ที่จะมีการตรวจทานอยู่เสมอ แม้แต่การสร้างสนามใหม่และก็การขออนุญาตเพื่อการแข่งขันชิงชัย จำเป็นที่จะต้องผ่านมาตรฐานของทางฟีฟ่าด้วยเช่นกัน ก็เลยจะถูกประกาศให้เป็นสนามที่รองรับเรื่องผลคะแนนได้ตามธรรมดา
สนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่า จะต้องเป็นเช่นไร?
ขนาดสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าจะถูกระบุไว้ให้เป็นรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ให้ความยาวไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 90 เมตร และก็จะไม่เกินไปที่ 120 เมตร ส่วนความกว้างต้องไม่เล็กมากยิ่งกว่า 45 เมตร และไม่กว้างกว่า 90 เมตร สำหรับขนาดของสนามที่ถูกและก็ถือว่าเป็นมาตรฐานสำคัญของสนามทั่วไป นิยมใช้กันเป็นส่วนมากแล้วก็ถูกเรียกว่าสนามกลุ่มฟุตบอลอาชีพ จะมี ขนาดความยาว 150 เมตร และความกว้าง 68 เมตร นอกจากนี้ทางฟีฟ่ายังมีการระบุขนาดของสนามที่แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
สนามสำหรับแข่งทั่วๆไปต้องมีความกว้างสนามไม่น้อยกว่า 45 เมตร และไม่เกินไปกว่า 90 เมตร ความยาวไม่น้อยกว่า 90 เมตรและไม่เกิน 120 เมตร
สนามแข่งขันนานาประเทศควรมีความกว้างไม่น้อยกว่า 45 เมตร และไม่เกิน 90 เมตร มีความยาวไม่น้อยกว่า 100 เมตรและไม่เกิน 110 เมตร
พร้อมการมีขีดเส้นกรอบเขตโทษ, ขีดเส้นรอบสนาม, ขีดเส้นกึ่งกลางแล้วก็วงกลม รวมถึงเส้นประตูที่จะจำต้องถูกต้องตามกฎของฟีฟ่าทั้งปวงอีกด้วย
ทำความรู้จักฟีฟ่า (FIFA)
สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ (FIFA) หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาประเทศ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 115 ปีให้หลัง โดยตั้งทีแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นหน่วยงานที่จะดำเนินการเกี่ยวกับกีฬาบอลระหว่างชาติและก็ถูกชมเชยให้เป็นองค์กรใหญ่ที่สุดของกีฬาบอล https://dooballsod168.com/ ประธานสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติคนแรกชื่อ รอคอยแบร์ เกแร็ง ส่วนในขณะนี้ถูกย้ายสำนักงานไปตั้งอยู่ที่เมืองซูริคของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะครอบคลุมกีฬาบอลโลก, ฟุตบอลโลกหญิง, การแข่งขันคอนเฟดเดอเรชั่นส์คัพ และการประลองบอลโลกเยาวชนในรุ่นอายุต่างๆอย่างครบถ้วน พร้อมการเป็นผู้กำหนดกฎ-กติกาทุกส่วนของกีฬาบอล เพื่อทำให้ทุกการประลองของกีฬาจำพวกนี้มีความเท่าเทียมกันและใช้กฎ-ข้อตกลงเดียวกันทั้งหมดทั้งปวง
สนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าจะช่วยทำให้ปรับการแข่งขันเป็นไปอย่างแม่นยำ เนื่องจากว่าถูกคิดมาแล้วว่าขนาดมาตรฐานนี้จะช่วยทำให้การดูแลของผู้ตัดสินเป็นไปอย่างง่ายดายและชัดแจ้งมากขึ้น พร้อมทำให้การแข่งขันชิงชัยมีความสนุกสนานร่าเริง ไม่ทำให้นักกีฬาจะต้องเหนื่อยหรือเจ็บมากจนเกินความจำเป็น ก็เลยถูกทำให้เปลี่ยนมาเป็นมาตรฐานกึ่งกลางของสนามฟุตบอลดูเหมือนจะทุกแห่งทั้งโลกจะต้องมีเช่นเดียวกัน